เช็คให้ดีก่อนที่จะบอกลาขน

ฉบับก่อนๆ เราได้พูดถึงวิธีการกำจัดขนแบบต่างๆ ทั้งการกำจัดรากขน และการกำจัดขนส่วนบนผิวหนัง กันมาแล้ว ฉบับนี้อาจารย์เอจะพูดถึงครีมกำจัดขน ว่ากลไกและวิธีการทำงาน เป็นอย่างไร ทำไมบางคนทาไปแล้วขนหลุดออกมา? และข้อดี-ข้อเสียของผลิตภัณฑ์คืออะไร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นขนตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเราก่อนค่ะว่าเป็นเคราตินแบบนิ่ม (Soft Keratin) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเส้นขน มีหน้าที่ยึดโปรตีนเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นเส้นขน ลองนึกภาพง่ายๆ เหมือนคนกำลังยืนจับแขนเพื่อไม่ให้หลุดออกจากกันนั่นแหล่ะค่ะ

ส่วนครีมกำจัดขนจะใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างทำหน้าที่เป็นสารออกฤทธิ์ เพื่อไปสลายการเชื่อมกันของเส้นขน ทำให้โครงสร้างเส้นขนเสียสภาพและอ่อนนิ่มลง และเมื่อแตกออกจากกันก็จะทำให้ขนที่อยู่บนผิวเราหลุดออกตามมาค่ะ ข้อดีสำหรับครีมจำกัดขนคือใช้งานง่าย และหาซื้อสะดวก มีขายตามท้องตลาดทั่วไป

ที่สำคัญคือไม่เจ็บค่ะ ส่วนข้อเสียคืออาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ หากผิวสัมผัสกับครีมเป็นเวลานานๆ แต่อาจารย์เอไม่แนะนำให้ใช้กับบริเวณคิ้วนะคะ เพราะผิวหนังส่วนคื้วและเปลือกตาจะค่อนข้างบาง ซึ่งสารเคมีในครีมกำจัดขนมีฤทธิ์เป็นด่าง หากเข้าตาจะทำให้ระคายเคืองและเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ ถ้าต้องการกำจัดขนคิ้ว แนะนำให้ใช้วิธีการกันคิ้ว หรือแวกซ์ขนคิ้วจะดีกว่าค่ะ หรือสำหรับคนที่ขนคิ้วเยอะมากๆ แนะนำให้เลเซอร์ค่ะ

แต่ต้องระวังเรื่องเครื่องที่ใช้ และมั่นใจว่าไม่ต้องการขนคิ้วบริเวณนั้นจริงๆ นะคะ เพราะเลเซอร์อาจจะทำให้ขนคิ้วหายถาวรไปเลย ในกรณีที่กันคิ้วไม่เป็นหรือไม่รู้ว่าจะกำจัดขนอย่างไร ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการแต่งทรงคิ้วจะดีกว่าค่ะ เพราะจะได้รูปทรงคิ้วที่สวยและเหมาะกับใบหน้าของคุณมากกว่า

ฝากทิปส์เล็กๆ น้อยๆ เอาไว้สำหรับคุณผู้อ่านเกี่ยวกับครีมกำจัดขนแบบใหม่ๆ ที่ออกมาขายกันว่าอาจจะผสมสารให้ความชุ่มชื่น สารลดอาการระคายเคืองผิว หรือบางยี่ห้อก็ผสมสารปรับสีผิวและช่วยบำรุงผิวไปในตัว ก่อนซื้อให้ลองอ่านรีวิว และดมกลิ่นดูก่อน เพราะส่วนใหญ่จะกลิ่นแรงมาก (ให้จินตนาการถึงกลิ่นน้ำยาดัดผม) หลังจากลองหาข้อมูลและซื้อมาแล้ว ก่อนทำให้เทสต์กับผิวบริเวณเล็กๆ ดูก่อน หากมีอาการแดงหรือระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ