วิธีเตรียมตัว ‘ก่อนฝังสีปาก’ และวิธีการดูแล ‘หลังฝังสีปาก’ ให้สีติดทน แผลหายไวขึ้น
การฝังสีปากเป็นวิธีแก้ไขปัญหาปากดำ ปากคล้ำ ปากบางไม่เป็นทรง ปากซีด ฯลฯ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเตรียมตัวก่อน-หลัง ฝังสีปาก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากดูแลริมฝีปากหลังสักอย่างถูกต้อง สามารถช่วยให้สีปากติดทน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงในการอักเสบจากการติดเชื้อได้
วิธีเตรียมตัว “ก่อน” ฝังสีปาก
การฝังสีปาก ถือเป็นหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาริมฝีปากคล้ำ สีปากซีด สีปากไม่สม่ำเสมอ ริมฝีปากบาง เพื่อปรับสภาพริมฝีปากให้ดูสุขภาพดี สดใส อวบอิ่ม อ่อนวัย และสามารถปรับแก้ไขรูปทรงของปากให้เป็นทรงชัดมากขึ้น ซึ่งการฝังสีปากเป็นการแก้ไขปัญหาปากคล้ำในรูปแบบกึ่งถาวร ให้ผลลัพธ์ยาวนาน โดยสีที่สักสามารถติดทนนานประมาณ 1-3 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสีปากเดิมของแต่ละคน ปกติการฝังสีปากจะเห็นผลหลังจากการฝังสีปาก 1-2 ครั้ง ซึ่งการเตรียมตัว “ก่อน” ฝังสีปาก มีวิธีดังต่อไปนี้
1.งดวิตามินทุกชนิด 3 วัน
การงดวิตามินทุกชนิดก่อนการทำการฝังสีปากมีเหตุผลหลัก คือ ลดความเสี่ยงจากการที่เลือดออกมากเกินไปในระหว่างฝังสีปาก เพราะวิตามินบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า หรือเลือดออกง่าย และการหายของแผล ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ของการทำฝังสีปากได้
2.ทานอาหารให้เรียบร้อย ก่อนเข้ารับบริการฝังสีปาก
ควรทานอาหารให้เรียบร้อย ก่อนเข้ารับบริการฝังสีปาก เนื่องจากการฝังสีปากจะใช้ระยะเวลาในการออกแบบ ปรับแก้รูปปาก และฝังสีปากประมาณ 1.30 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมง
3.หากฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน
หากทำการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ควรเว้นระยะห่างก่อนเข้ารับบริการฝังสีปาก อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจาก การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในเนื้อเยื่อที่ปาก อาจทำให้เกิดบาดแผลหรือการอักเสบได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนหลังจากการทำฟิลเลอร์ปาก จึงควรเว้นระยะเวลาห่างอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อริมฝีปากมีเวลาฟื้นตัว และแผลหายสนิท
วิธีดูแล “หลัง” ฝังสีปาก
การดูแลรักษาหลังฝังสีปากชมพู ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากไม่ดูแลริมฝีปากให้ดี ผิวหนังบริเวณริมฝีปาก อาจเกิดอาการบวมน้ำ อักเสบ และเกิดการติดเชื้อ ส่งผลทำให้แผลหายช้า หรือสีอาจติดไม่สม่ำเสมอได้ สำหรับวิธีดูแลรักษาหลังการฝังสีปาก จำเป็นต้องปฏิบัติตามนี้อย่างเคร่งครัด
1.ทายาฆ่าเชื้อเช้า-เย็น
การทายาฆ่าเชื้อเช้า-เย็น เป็นการป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรียที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเช้าและเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย หลังจากทายาฆ่าเชื้อเช้า-เย็นครบ 4 วัน ให้ทา Ointment เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้ง
2.หลังการฝังฝีปากจะมีอาการบวมช้ำบ้างเป็นปกติ
หลังจากเข้ารับบริการฝังสีปาก อาจมีอาการบวมช้ำบ้าง ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ อาการบวมช้ำขึ้นอยู่กับสภาพผิวริมฝีปากของแต่บุคคล รวมถึงเนื้อเยื่อผิวบริเวณริมฝีปาก ฉะนั้น หลังจากที่ปากลอก แต่ริมฝีปากยังมีอาการบวมช้ำอยู่ สาวๆ ไม่ต้องกังวล
3.งดแปรงฟัน 1 คืน
ช่วงวันแรกหลังฝังสีปาก ควรสวมหน้ากากอนามัย และงดแปรงฟัน เป็นเวลา 1 คืน เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากน้ำ
4.หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารรสจัด เผ็ดร้อน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ รวมถึงอาจจะทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวมน้ำได้ และในช่วงที่ริมฝีปากยังลอกออกไม่หมด ควรเลือกทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัดมาก อาหารแห้งๆ และสามารถทานได้ง่ายๆ อาทิ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวผัด ข้าวหมูทอด ข้าวไข่เจียวหมูสับ เป็นต้น
5.ดื่มน้ำให้มากขึ้น และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลังจากทำการฝังสีปาก แนะนำให้ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย และควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายขับน้ำออกเร็วขึ้น มีเหงื่อออกและปัสสาวะมากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้
6.หลีกเลี่ยงสัมผัสรุนแรง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสรุนแรงบริเวณริมฝีปาก ห้ามแคะ แกะ เกา หรือลอกผิวบริเวณริมฝีปาก ควรปล่อยให้ปากลอกออกมาเอง เพราะการสัมผัสรุนแรงบริเวณริมฝีปาก อาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือทำให้สีริมฝีปากหลังลอกไม่สม่ำเสมอได้
7.ทาลิปบาล์มบ่อยๆ
เนื่องจากในช่วงที่ปากผลัดเซลล์ผิว ริมฝีปากจะแห้งเป็นพิเศษ การทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากบ่อยๆ สามารถช่วยให้ผิวบริเวณริมฝากชุ่มชื้น ทำให้ปากลอกง่าย และแผลหายเร็วขึ้น
8.ช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ริมฝีปากจะมีสีคล้ำกว่าเดิม
ในช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ริมฝีปากจะมีสีคล้ำกว่าเดิม สามารถทาลิปบาล์มบ่อยๆ เพื่อบำรุงริมฝีปาก และควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและร่างกาย
9.ควรพักฟื้นริมฝีปาก ก่อนเติมสี อย่างน้อย 2-3 เดือน
หลังจากสักฝังสีปากเสร็จสมบูรณ์ การติดทนของสีและอายุการใช้งานขึ้น มักขึ้นอยู่กับคุณภาพของสีที่ใช้ การดูแลรักษาหลังฝังสีปาก และสภาพผิวของแต่ละคน โดยปกติสีจะค่อยๆ ซีดจางลงตามระยะเวลา หากต้องการให้สีริมฝีปากยังคงอิ่มสวย และมีรูปปากที่เป็นทรงชัด ต้องมีการเติมสีปากเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม ควรพักฟื้นริมฝีปาก อย่างน้อย 2-3 เดือนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 6 เดือน
10.เลี่ยงแสงแดดจัด
พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หรือแดดกลางแจ้ง และหมั่นทาลิปบาล์มเป็นประจำ เพื่อป้องกันริมฝีปากจากแสงแดด รังสี UV หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากดำ ปากคล้ำ ปากแห้ง ปากลอก
ส่วนสาวๆ ท่านไหนที่สนใจ
อยากลองไปปรึกษาขอคําแนะนําก็สามารถเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมที่..
www.facebook.com/3d.eyebrows.Adenaa
หรือ www.adenaa.com ค่ะ
สถานที่ให้บริการ
982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย
ชั้น 5 โซนสํานักงาน
ห้องเลขที่ 5110 ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โns: 093-365-0700, 086-334-5632
อีเมล์ : info@adenaa.com
เวลาทําการ : ทุกวัน 10.00 – 20.30 น.